วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Wireless Access Point


หาข้อมูลเกี่ยวกับ Access Point กันหน่อย

รื้อฟื้นความจำกันก่อน  wireless เมื่อก่อนจะมีมาตรฐาน  802.11b  ความเร็วสูงสุดที่ 11Mbps

และก็มีการพัฒนามาเป็น 802.11g  ความเร็วสูงสุดที่ 54Mbps  ซึ่งทั้งสองแบบใช้คลื่นความถี่  2.4GHz

ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมมาเป็น 802.11n  ซึ่งความเร็วสูงสุดได้ไปถึง 600Mbps  และมี 802.11a , 802.11ac

ที่มาใหม่ เป็นคลื่น 5GHz ซึ่งประเทศไทยก็ได้มีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 5GHz ได้ โดยจำกัดกำลังส่งไว้ดังนี้



ทำไมถึงแตกต่างกัน?

ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจ ในเรื่องของความถี่กันก่อน 2.4GHz กับ 5GHz แตกต่างกันอย่างไร

แน่นอน ตัวเลขต่างกัน 2.4GHz เป็นคลื่นความถี่ที่ต่ำกว่า

ข้อดี

- ใช้กำลังส่งน้อยกว่า
- ผ่านสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า
- เป็นที่นิยมมากกว่า ราคาอุปกรณ์เลยจะถูกกว่า

ข้อเสีย

- ช่องสัญญาณมีน้อย  โอการที่ช่องสัญญาณจะถูกรบกวนมีได้มากกว่า  และทำความเร็วได้น้อยกว่า

ส่วน 5GHz ก็นำมาใช้แก้ปัญหาของ 2.4GHz

ข้อดี

- ช่องสัญญาณมีเยอะ โอกาสถูกรบกวนน้อย และสามารถทำความเร็วได้สูง

ข้อเสีย ก็ตรงกันข้ามกับ 2.4

- ใช้กำลังส่งที่สูงกว่า ในระยะทางที่เท่ากัน
- ผ่านสิ่งกีดขวางได้น้อย เพราะเป็นคลื่นความถี่สูง
- ราคาอุปกรณ์แพงกว่า 2.4

ปัจจุบันก็มีมาตรฐาน 802.11ac ออกมา ซึ่งเป็นการรวม ทั้ง 2 คลื่น นำมาใช้ร่วมกัน

แต่ด้วยคุณสมบัติ ของแต่ละคลื่นความถี่ ก็ต้องนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับ พื่นที่ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

ต่อไปก็มาดูกันเรื่องของความเร็ว ตัวแปรของความเร็วก็จะขึ้นอยู่กับ ช่องสัญญาณ และก็เทคนิคในการรับส่งคลื่น


ความถี่ 2.4GHz  ซึ่งก็คือตั้งแต่ 2400MHz - 2500MHz สามารถแบ่งเป็นช่องสัญญาณ ช่องละ 20MHz ได้ออกมาเป็น

11 channel  (แบ่งยังไงถึงได้ 11 จริงๆมันควรจะได้แค่ 5 ซิ  100MHz/20MHz) ใช่ครับ ที่ได้ 11 เพราะว่ามันมีส่วน

ที่ overlap หรือว่าซ้อนกันอยู่  ดังนั้น channel ที่ติดๆกันจะมีการซ้อนกันอยู่  การตั้ง channel  ไม่ให้สัญญาณกวนกัน

ก็ต้องตั้งห่างกัน



ต่อไปเรื่องของความเร็ว  1 ช่องสัญญาณ  20MHz  ความถี่ 2.4GHz  จะทำความเร็วสูงสุดได้ 65Mbps  แต่ก็มีเทคโนโลยี

ต่าง ๆ ของอุปกรณ์เข้ามาช่วย เช่น Short GI  ก็จะทำความเร็วสูงสุดได้เป็น 72.2Mbps  เทคโนโลยี MIMO (แบบหลายๆเสา)

รวมไปถึงการขยายช่องสัญญาณเป็น 40MHz     สำหรับเทคโนโลยีแบบต่าง ๆ นั้น ตัวรับและตัวส่ง จะต้องรองรับด้วย ถึงจะ

สามารถใช้งานได้



ความถี่ 5GHz  ก็คือตั้งแต่  5000MHz - 6000MHz  แบ่งช่องสัญญาณ ช่องละ 20MHz  ได้ออกมาเป็น 200 channel

(1000MHz/20MHz  ก็ควรจะได้ 50 ซิ) ใช่ครับ มันก็มีส่วน overlap กันอยู่ แต่ก็มีตั้ง 200 ช่อง ก็คงจะชนกันยาก ถึงจะ

มีช่องสัญญาณเยอะก็จริง แต่ก็มีการกำหนดการใช้งาน เพื่อไม่ให้มีปัญหา ซึ่งก็ขึ้นอยู่แต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย



5GHz (Band A)  ได้แก่ channel  36-64 โดยห่างกัน 4 ช่อง คือ 36,40,44,48,52,56,60,64

5GHz (Band B)  ได้แก่ channel 100-140 ห่างกัน 4 ช่อง คือ 100,104,108,...,132,136,140

5GHz (Band C)  ได้แก่ channel 149-165 ได้แก่ 149,153,157,161,165

ฺสำหรับ Band A ใช้สำหรับ Indoor  และ  Band B,C ใช้สำหรับ Indoor/Outdoor

เป็นต้น

สำหรับ 5GHz  ที่ช่องสัญญาณ 20MHz  ทำความเร็วสูงสุดได้ 97.5Mbps  ก็จะมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยเพิ่มความเร็ว

เช่น การขยายช่องสัญญาณไปถึง 160MHz และก็ Short GI สามารถ ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 1300Mbps

การขยายช่องสัญญาณก็จะได้ความเร็วที่สูงขึ้น แต่ก็มีโอกาสถูกรบกวนได้มากขึ้นเช่นกัน

สำหรับมาตรฐานใหม่  802.11ac  ก็คือการใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz รวมกัน ซึ่งก็สามารถทำความเร็วได้ถึง 3.2Gbps

โดยการใช้ Tri-Band คือ 2.4GHz + 5GHz Band A + 5GHz Band B

คำถามทิ้งท้าย  ถ้าเราใช้คลื่น 5G กันแล้วจะมีปัญหาไหม เวลามือถือ 5G นำมาใช้งานกัน ตอนนี้ก็เป็น 4G อยู่ (ถามขำๆ)

ตอบ : คลื่นความถี่ 5GHz  ก็คือความถี่  ส่วนโทรศัพท์  5G  ย่อมาจาก  Generation   5G ก็คือ Generation ที่ 5

คนละอันกันครับไม่เกี่ยวข้องกัน  คลื่นความถี่ของมือถือก็จะเป็น  850MHz  900MHz  1800MHz  2100MHz  ประมาณนี้

** มือถือจะใช้คลื่นความถี่ที่ต่ำ  กำลังส่งไม่มาก ก็สามารถส่งได้ไกลหลายกิโล ผ่านสิ่งกีดขวางได้ดี **


อ้างอิง  :  http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/009/34.PDF

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น